Category: Uncategorized

การหาปริมาณ Fluorideใน Dentifrice แบบคิดในใจ

รูปที่เห็นถ้าเราพลิกรอบๆ กล่องยาสีฟัน จะเจอปริมาณฟูลออไรด์ในหน่วย ppm ที่คุ้นเคย ความหมายคือ ยาสีฟันหลอดนี้มีปริมาณ Fluoride ion ที่ความเข้มข้น 1,450 ppm (ปกติในยาสีฟันจะจำกัดปริมาณสูงสุดของ F – ion ที่ไม่เกิน 1,500 ppm)

และยาสีฟันในตลาดส่วนมาก สารออกฤทธิ์ที่ให้ F- ion จะมีอยู่ 2 ตัว

คือ

1.Sodium fluoride (NaF)

2.Sodium MonoFluoroPhosphate (Na2 PO3 F (คุ้นกันในชื่อ MFP fluoride))

(Na มี 1+, P 5+, O 2-, F 1- ดังนั้น Na ติดประจุ +1, PO3 ติดประจุ -1 (มาจาก 5+(-2×3)=5-6 = -1) , F ติด -1

ทำให้เป็น 2 Na ประจุ +2 กับ 1 ((PO3)F ) ประจุ -2 –> redox เป็น Na2 (PO3) F

MFP fluoride
NaF

แต่เราจะพบว่า ส่วนใหญ่ใช้ NaF มากกว่า MFP fluoride

และมีน้อยมาก ที่จะใช้ทั้ง MFP fluoride และ NaF ในหลอดเดียวกัน

Fluocaril จัดหนัก คือให้มาทั้ง 2 ตัว แต่ F-ion รวม ก็ยังจำกัดไม่เกิน 1,500 ppm

ทำไมผู้ผลิตจึงนิยมใช้ NaF > MFP fluoride ?

เหตุผล เพราะ ถ้าเรามาดูสูตรโมเลกุล NaF เทียบกับ MFP fluoride (Na2 PO3 F)

จากตารางธาตุ

มวลอะตอมของ Na = 23, F = 19, P = 31, O = 16, F = 19

จะได้

มวลโมเลกุล NaF = 23 + 19 = 42

มวลโมเลกุล Na2 PO3 F = (23×2) + 31 + (16×3) + 19 = 144

ปริมาณ F- ion ใน NaF = 19/42 = 0.4524 = 45 %

ปริมาณ F-ion ใน Na2 PO3 F = 19/144 = 0.1319 = 13.2%

ในปริมาณน้ำหนักที่เท่ากัน NaF จะ release F-ion > MFP fluoride ประมาณ 3 เท่า

Product ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Dentifrice, Mouthrinse หรือ Fluoride ในรูปแบบอื่นๆ จึงนิยมใช้ NaF เป็นหลักครับ

ทีนี้ลองเทียบปริมาณในการนำไปใช้

MFP 1% w/w = 10 mg/g จะมี F-ion = (10 x 13.2)/100 = 10/7.6 = 1.32 mg/g = 1.32 x 1000 = 1,320 ppm

NaF 1% w/w = 10 mg/g จะมี F-ion = (10 x 45)/100 = 10/2.2 = 4.55 mg/g = 4.55 x 1000 = 4,550 ppm

สรุปคือ MFP 1% w/w = F-ion 1,320 ppm, NaF 1% w/w = F-ion 4,550 ppm

ลองนำไปใช้ตรวจคำตอบในชีวิตประจำวันของคนทั่วไป

NaF 0.315% w/w = F-ion 0.315 x 4,550 = F-ion 1,433.25 ppm

ถือว่า มีการปัดเศษนิดหน่อย ก็ ok ~ 1,450 ppm เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจง่าย

ต่อมา ลองนำมาใช้ในชีวิตประจำวันทันตแพทย์กันบ้างครับ

จากบทความใน CDEC

ตัดมาเฉพาะตรงนี้

จากข้อ 1 Mouthrinse 0.05% = F-ion 225 ppm –> สารออกฤทธิ์ 1% =F-ion 4,500 ppm ( มาจาก 225/0.05 = 4,500)

จากข้อ 2 Mouthrinse 0.2% = F-ion 900 ppm –> สารออกฤทธิ์ 1% = F-ion 4,500 ppm ( 900/0.2 = 4,500)

เพราะเรารู้แล้วว่า NaF 1% w/w = F-ion 4,550 ppm

(สังเกตว่า Mouthrinse ต้องคิดเป็น w/v แต่ NaF เป็น w/w ซึ่งจะไม่มีความแตกต่างเมื่อคิดเป็น % หรือ ratio อย่าง ppm ที่ไม่มีหน่วยวัดเป็น prefix ของ g, litre เช่น mg, ml)

Mouthrinse ทั้ง 2 ความเข้มข้นในบทความนี้จึงใช้ NaF เป็น active F- ion release (แม้ท่านอาจารย์จะไม่ได้บอก แต่ละไว้ในฐานที่เข้าใจจาก conc ที่ให้ ว่าเป็น NaF )

อีกตัวอย่าง

เรื่อง แนวทางการใช้ F สำหรับเด็ก 2560

จาก ΝaF 1% w/w และ Conversion ratio ของ F-ion ใน NaF = 2.2 ( F-ion = 45% ของ NaF –> Conversion ratio = 100/45 = 2.2 )

0.05% NaF = 0.5 mg/ml –> ทำให้เป็น F-ion = 0.5/2.2 = 0.23 mg/ml –> (0.23×5) – (0.23×10) = 1.15 – 2.30 เป็นปริมาณ mg F ช่อง 1

0.2% NaF = 2.0 mg/ml –> ทำให้เป็น F-ion = 2.0/2.2 = 0.91 mg/ml –> (0.91×5)-(0.91×10) = 4.55 – 9.10 ปริมาณ mg F ช่องที่ 2

จะเห็นว่า การหารด้วย Conversion ratio ไม่ทำให้หน่วยเปลี่ยน เพราะ Conversion ration ตัวมันเองไม่มีหน่วย เป็นเพียงการหา F-ion ที่ซ่อนอยู่ในสูตรโมเลกุลของ Active gradient (ซึ่งในที่นี้คือ NaF) เท่านั้น

มาดูตารางในหน้าที่ 6 ของบทความ

APF 1.23% = 12.3 mg/ml (กรณี APF จะบอก % ของ F-ion มาเลย เวลาคิดเป็น mg/ml ให้นำ % w/v คูณด้วย 10 ) = 12,300 (1.23 x 10,000) ppm ( 1% w/v = 1/100 = (1/100) x (1,000,000/1,000,000) = 10,000/1,000,000 = 10,000 ppm)

2% NaF = NaF 20 mg/ml มี F- ion = 20/2.2 = 9.09 mg/ml ปริมาณในการเคลือบ 5 ml = 9.09 x 5 = 45.45 mg

สรุปวิธีคิด ปริมาณ F-ion จาก conc ของ NaF ที่ง่ายที่สุด คือ

1. นำ NaF % คูณด้วย 10 จะออกมาเป็น NaF mg/g (w/w), mg/ml (w/v)

2. นำผลที่ได้จากข้อ 1 เป็นตัวตั้ง แล้วหารด้วย 2.2 (ค่า Conversion ratio ของ NaF) ได้ออกมาเป็น F-ion หน่วย mg/g (w/w) หรือ mg/ml (w/v)

3. จากนั้นนำผลลัพธ์ในข้อ 2 มาคูณด้วย 1,000 จะออกมาเป็น F-ion ในหน่วย ppm

ตัวอย่าง เช่น Dentifrice ข้างกล่องระบุ Sodium Fluoride 0.315% w/w

1. นำ 0.315% x 10 = 3.15 mg/g NaF

2. 3.15/2.2 = 1.43 mg/g F-ion

3. 1.43 x 1,000 = 1430 ppm F-ion

4. Sensodyne หลอด 100 g มี NaF 315 mg มี F-ion 143 mg หรือ 1,430 ppm

และถ้าเราต้องการคิดแบบย้อนกลับ คือ พบว่า กล่อง Dentifrice ระบุ ปริมาณ (conc) F-ion เป็น ppm แล้วต้องการทราบ conc ของ Sodium fluoride ก็ทำได้โดย การนำ F-ion ppm มาคูณด้วย 2.2 แล้วหารด้วย 10,000 ก็จะออกมาเป็น % NaF ที่อยู่ในหลอดนั้น

สมมติเดินเข้าไปใน 7-11 แล้วเจอยาสีฟันที่ระบุแบบนี้

Active Fluoride 1,000 ppm

พลิกดูแล้วเป็น NaF

F-ion 1,000 ppm –> NaF = (2.2 x 1000)/ 10,000 = 0.22 %

Kodomo หลอดนี้มี NaF 0.22% ในขนาดหลอด 40 g

–> มี NaF (0.22 x 40) /100 = 0.088 g = 88 mg

อีกตัวอย่าง คือ เมื่อเราเจอ Active F-ion ปริมาณที่ไม่ลงตัว เช่น 1,450 ppm

วิธีคิด % NaF คือ การนำ 1,450 ppm มา + กัน 2 ครั้ง เป็น 1,450+1,450 = 2,900 (เป็นผลจากการคูณด้วย 2)

เก็บ 2,900 ไว้ในใจ แล้วตัด 0 ออก 1 ตัว ( เป็นผลจากการคูณด้วย 0.2) ได้ = 290

นำ 2,900 ที่เก็บไว้ในใจมา + 290 ได้ค่า = 3,190

นำ 3,190 / 10,000 = 0.319 % NaF

(วิธีคิดมาจาก 1,450 x 2.2 = 1,450 x (2 + 0.2) = (1,450 x 2) + (1,450 x 0.2))

Colgate Total หลอดนี้มี NaF 0.319%

นอกจากนั้นเรายังใช้วิธีนี้กับ Fluoride product ตัวอื่นได้

เช่น Silver Diamine Fluoride (SDF)

SDF มีสูตรโมเลกุล Ag (NH3)2 F

Ag 1+, NH3 ประจุ 0 (-3 + (1+1+1)), F 1- –>

Ag(NH3)2 ประจุ +1 กับ F -1 –> Αg (NH3)2 F

SDF atomic mass = Ag 108 + NH3 ((14+1+1+1)x2) + F 19 = 161

ปริมาณ F-ion ใน SDF = 19/161 = 0.118 = 11.8% = Conversion ratio 8.47

(มาจาก 100/11.8 = 8.47)

จากรูป แสดง conc ของ SDF ที่ใช้ในคลินิก = 38% w/v

วิธีคิด F-ion ที่อยู่ใน SDF

1. SDF 38% w/v จะมี conc = 38 x 10 = 380 mg/ml

2. SDF 380 mg/ml มี F-ion = 380/ 8.47 = 44.864 mg/ml (หารด้วย Conversion ratio ของ SDF)

3. F-ion 44.864 mg/ml = 44.864 x 1,000 = 44,864 ppm

นั่นคือ SDF 38% w/v จะมี F-ion 44,864 ppm

ตรวจคำตอบ

สรุป

ค่าพลัง F-ion ของ Mouthrinse อยู่ที่ระดับ 500-1,000 ppm

ค่า F-ion ของ Dentifrice จะมีค่าพลังอยู่ที่ 1,500 ppm

ค่า F-ion ของ Fluoride gel ค่าพลังระดับ 10,000 ppm

และ SDF ค่าพลังสูงที่สุด คือ อยู่ที่ระดับ 50,00 ppm

(ตัวเลขละเอียดตามข้างต้น แต่สรุปเป็นตัวเลขประมาณเพื่อให้จำได้ง่ายๆ ครับ)

Ref:

1. https://sciencenotes.org/use-periodic-table/

2. https://www.cdec.or.th/readonly_page.php?id=148

3. https://www.thaidental.or.th/main/download/upload/upload-20190213213340.pdf

4. https://dentalcouncil.or.th/images/uploads/file/0DZ0ANJWCPIWHGY3.pdf

5. https://www.cdec.or.th/readonly_page.php?id=10

Dentist & MissUniverse 2023

ประทับใจน้อง Amanda Dudamel (Miss Venezuela) ครับ

เนื่องจากไม่มีรูป Profile จึงขอดูสัดส่วนของฟันอย่างเดียว

Central incisor ดูใหญ่มาก แต่ลองวิเคราะห์กันดู

การวิเคราะห์ จะอ้างอิงตามนี้นะครับ https://bit.ly/3GKTOpR

จะใช้ตามลำดับเวลา จาก Golden proportion –> Golden mean (Golden %) –> RED proportion

สัดส่วนความสูงของ Clinical crown ฟันหน้าบน ต่อ ใบหน้าส่วนล่าง (Dr.Edwin I. Levin ปี ค.ศ.1978)

ถือว่า ใกล้เคียงในทศนิยมตำแหน่งที่ 2 คือ 1 : 1.618 ( เพราะ ถ้าทศนิยมตำแหน่งที่ 2 ไม่ใกล้เคียง จะเกิดการปัดทศนิยมตำแหน่งที่ 1 จึงถือว่า 1.6428 มีนัยสำคัญที่ ทศนิยมตำแหน่งที่ 2 คือ 4 ครับ)

มาดูขนาดฟัน

ค่าทางขวามือผู้อ่าน คือ ค่าที่เทียบกับ Standard (Original) Golden ratio , ส่วนทางซ้ายมือคือ ค่า Golden mean (Golden %) ของ Dr.Stephen R. Snow ค.ศ.1999)

ค่าในรูปคือ 1.5714 : 1 : 0.8571 เทียบกับ 1.618 : 1 : 0.618 ของ Standard GR จะเห็นว่า ค่าไม่ไปด้วยกันเลย

แต่ถ้าลองเทียบกับ Golden mean ของ Dr. Snow

ค่าที่ได้ คือ 0.247 : 0.1573 : 0.1348 –> 0.25 : 0.16 : 0.1 จะเห็นว่า ใกล้เคียงกับ Golden mean มากครับ (0.25 : 0.15 : 0.1)

เนื่องจาก #11, 21 ดูใหญ่มาก เราลองดู Clinical crown w/h ครับ

w/h = 74% ถือว่า อยู่ใน normal clininal crown ครับ
ถ้า w/h ต่ำ นั่นหมายถึง ฟันจะมี Clinical crown ยาวกว่าปกติครับ

ในคนที่มี Clinical crown w/h ปกติ เราจะใช้ RED proportion ครับ (เพราะในธรรมชาติ Standard GR ไม่ fit กับขนาดฟันจริง )

Recurring Esthetic Dental proportion = 1 : 0.7 : 0.49

กลับมาที่รูปนี้

ถ้าใช้ RED proportion

22 : 14 : 12 = 1 : 0.6363 : 0.5455 –> 1 : 0.6 : 0.5 ซึ่งใกล้เคียง 1 : 0.7 : 0.49

สรุป Central incisor (ที่เห็นจากรูป) ไม่ถือว่า ใหญ่เกินไปครับ เพราะ ถ้าหมอไปเพิ่ม w/h ratio ถึงจะทำให้เข้าใกล้ norm Clinical crown มากขึ้น แต่การลด h ก็จะมีผลกับ Smile line และ embrassure ครับ

Ref :

1. https://footwearnews.com/2023/fashion/celebrity-style/miss-venezuela-miss-universe-2023-1st-runner-up-dress-heels-1203392494/

Don’t Remove. (before X-ray)

radix-ento พบได้ในคนไทย 12.7%

Germination
X-ray ช่วยให้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใน
สังเกต furcation ก็รู้ว่าฟัน Perio
Mermaid Premolar
ให้สังเกตที่ mouth mirror
เห็นถึงความฝ้ามัว
เป็น Br พม่าครับ alloy ไม่แข็งมาก X-ray เท่านั้นจึงจะรื้อได้
ผมจะชอบวัดความยาวของฟันบ่อยๆ เทียบกับความยาวในใจที่เดาเอาไว้
RCT incomplete
ใครสังเกตเห็นความผิดปกติบ้างครับ?
ถึงกับต้องถ่ายทุกมุมเลยซี่นี้
remove ฟัน Crowding เป็น PVC ล้อมด้วยฟัน RCT

อย่าลืม X-ray ก่อนถอนนะครับ

เมื่อเรามาถึงวันที่ต้อง Up firmware Powerbank

เมื่อเรามาถึงวันที่ต้อง Up firmware Powerbank

ในวันที่ Apple เปิดตัว Magsafe battery pack (.. 2564)

ยอมรับว่าเป็น Apple product ตัวนึงที่ผมมองข้ามไปเลย เพราะ Powerbank ขนาดความจุ 1,460 mAh ราคา 3,690 บาท คิดในแง่ไหน มันก็แพงมากครับ ถึงแม้มันจะเป็น Magsafe ก็เถอะ

(โลหะที่ใช้ใน Magsafe accessories ของ Apple คือ Neodymium magnet (N45SH grade) สำหรับ MagSafe case และ N48H grade magnet สำหรับ MagSafe acessories ตัวอื่นๆ เช่น MagSafe ที่ใช้ใน Battery pack หรือ Powerbank ตัวนี้)

ทำไมต้องใช้ Neodymium magnet grade นี้?

เหตุผลเพราะ Wireless charge ตาม Qi standard จะเกิดการ loss พลังงานที่ Output ออกมากลายเป็น Heat (ตาม 2nd law of Thermodynamics) ซึ่งโดยคุณสมบัติของแม่เหล็กธรรมชาติ (ตัว Alloy มีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็กโดยไม่ต้องมีกระแสไฟฟ้าผ่าน คือ วางอยู่เฉยๆ ก็แสดงความเป็นแม่เหล็กได้เลย) แม่เหล็กธรรมชาติเมื่อได้รับอุณหภูมิสูงมาก ความเป็นแม่เหล็กของมันจะค่อยๆ สูญเสียไป

ซึ่ง Neodymium magnet SH grade จะทนความร้อนได้ถึง 150 °C แต่ magnet grade นี้จะใช้ % Heavy rare earth ที่สูงกว่า grade ธรรมดา เช่น N grade อื่นๆ ซึ่งบริษัท 3rd parties ที่ผลิด MagSafe accessories ส่วนใหญ่จะใช้ N grade ที่ไม่ resist High temperature ทำให้ลดต้นทุนการผลิดได้มากกว่า MagSafe ของ Apple ทุก products ที่ใช้ MagSafe

แสดงตาราง Rare earth element บางส่วน

ในที่นี้ให้ดู Nd

แสดงตำแหน่งของ Rare earth element ทั้ง 17 ตัวในตารางธาตุ (เกือบทั้งหมดเป็น Transition metal ใน Lanthanide series คือ คาบที่ 3 ของ Transition metal สำหรับทันตแพทย์ Pt, Au และ Hg ก็อยู่ในคาบเดียวกันนี้ แต่ไม่อยู่ใน Lanthanide series นะครับ เพราะ Pt, Au, Hg ไม่มี Chemical property คล้าย La (Lanthanum))

เมื่อเดือนที่แล้ว เข้าไปดู Mac Studio ใน Apple store CTW บังเอิญไปเจอ MagSafe battery pack วางขายในร้าน (ขายในร้าน ไม่ขาย Apple store online ซึ่งก็แปลกดี)

แสดง Mac Studio

MagSafe battery pack

เลยซื้อมารีวิว เพื่อให้หายความสงสัยในใจ แล้วค่อยขายต่อดีกว่า

Clip แสดง MagSafe animation เวลาใช้งาน (MagSafe animation จะพบได้ใน MagSafe product ของ Apple ทุกตัว แต่จะไม่พบใน MagSafe accessories จากบริษัทอื่นๆ)

Default จะตั้งค่าให้ Charge ได้ที่ 90% แต่ถ้าเราต้องการเปลี่ยนไม่ให้ limit ที่ 90% สามารถปรับที่ Settings ได้

ในขณะที่ซื้อมานั้น Apple ยังตั้งให้กำลังไฟของ MagSafe Battery Pack ที่ Output ออกมาอยู่ที่ 5W (ถ้าเสียบชาร์จ MagSafe ด้วย Wall charge 20W ขึ้นไป แล้วติด MagSafe Battery Pack กับ iPhone จะชาร์จด้วย Output 15W)

ในการใช้งานจริง

Crop graph ออกมา

ถ้าคิดแบบตรงๆ (โดยไม่สนรูปร่าง S-curve ของ graph ซึ่งเป็นวิธีที่ผิด)

13Pro มี Battery = 3,095 mAh 3.83 V = 3,095 x 3.83 = 11.853 Wh

MagSafe Battery Pack มี Battery = 1,460 mAh 7.62 V = 1,460 x 7.62 = 11.125 Wh

Powerbank จะชาร์จได้ = (0.85 x 11.125)/11.853 = 0.797 รอบ ~ 80% ของความจุ Batt 13Pro

(คิดการ loss Energy ของ Powerbank ที่ 15%)

Charging speed = 5W

อัตราการชาร์จ = 11.853/ (0.85×5) = 2.79 h = 167.4 min = 0.597%/min ~ 0.6%/min

เป็นอัตราการชาร์จแบบคงที่ ขึ้นกับความจุของ Battery ยิ่ง % batt สูง อัตราการชาร์จยิ่งช้าลง (ตาม S-curve)

หมายความว่า ยิ่งเข้าใกล้ 80% อัตราการชาร์จต้องน้อยกว่า 0.6%/min

จาก graph ชาร์จจาก 70%–>80% = 10%/38 min = 0.26%/min (ที่ Charging speed = 5W)

แสดงสถานะ MagSafe Battery Pack ก่อน Up firmware อยู่ที่ version 2.5.b.0

ทำการ Up firmware ผ่าน USB-A ของ Macbook Air

ไม่มีสถานะการ Update ใดๆ แสดงเลยครับ ต้องกะเวลาอย่างเดียว ใช้เวลา ~ 5 min

การตรวจสอบทำได้โดยนำมาชาร์จ iPhone เท่านั้น จะเห็นว่า firmware version เปลี่ยนเป็น 2.7.b.0

มาดู graph ในการชาร์จเทียบกับก่อนหน้า

Charging speed = 7W

จาก graph 70–> 84% ในเวลา 24 min = 14/24 = 0.583%/min ~ 0.58%/min

มากกว่าก่อน Up firmware = 0.58/0.26 = 2.23 เท่า (สอดคล้องกับตัวเลข Output 7/5 = 1.4 เท่า)

สรุป คือ หลัง Up firmware Charging speed เร็วขึ้นจากการใช้จริง เพิ่มจากเดิม ~ 2 เท่า ในช่วงความจุ 70%+

ถ้าความจุแบตเริ่มต้นเปลี่ยนไป speed ของ MagSafe battery จะแปรผันในช่วง 0.2-0.6%/min

นั่นคือ

ในครึ่งชั่วโมงจะชาร์จได้ความจุเพิ่มขึ้น 6%- 18% ขึ้นกับความจุเริ่มต้นของ iPhone ครับ

Ref:

1. https://www.macrumors.com/guide/magsafe-battery-pack/

2. https://sourcemagnets.com/wireless-charging-magnet/

3. https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%81

4. https://en.m.wikipedia.org/wiki/Rare-earth_element

5. https://www.macrumors.com/guide/magsafe-battery-pack/

6. https://en.m.wikipedia.org/wiki/IPhone_13_Pro