WWDC 2021 จบตอนตี 2 ของวันที่ 8 มิ.ย. 2021 ครับ
iOS 15 beta ปล่อยคืนนี้เลย
ส่วน Public ปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปเดือนหน้าครับ
และตัวจริงปล่อยช่วงปลายปี พร้อมการเปิดตัว iPhone 13 series
หน้าเวบขึ้น We’ll back soon. อยู่ตอนงาน present จบไปแล้ว
หน้า System status ขึ้น maintainance น่าจะใช้เวลาอีก 1 ชม. ไปชงกาแฟรอได้
จนประมาณตี 3 ครับ มาละ
ถ้าเราไปดูที่ Settings –> General –> Software update จะยังขึ้นเป็นของ iOS 14.7 ครับ
เพราะต้องติดตั้ง Profile ของ iOS 15 beta ก่อน
เมื่อกดเข้าไปดู Profile จะเห็นว่ายังเป็น Profile iOS 14 อยู่
กลับมากดติดตั้ง Profile ของ iOS 15 beta จากหน้าเวบ developer ครับ
เวบจะแจ้งเตือนว่า จะ install Profile ละนะ
หลังติดตั้ง Profile ลงเครื่องเรียบร้อย
เปิดเข้าไปดู Profile ในเครื่อง จะพบ Profile แยกกันระหว่าง 2 version
คือ นับต่อจากนี้ iOS 14 และ 15 จะแยกสายกันครับ ต่างคนต่างพัฒนาไม่เกี่ยวกัน
iOS 14 จะไปเรื่อยๆ จาก 14.6 ในตอนนี้ไปถึง 14.x จนกว่าจะเปิดตัว iPhone 13 และ iOS 15 ก็จะนับเป็น 15 beta 1 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงวันเปิดตัว iPhone 13 เช่นกัน (อาจไม่เป๊ะ แต่ประมาณนี้)
จากตรงนี้ถ้ากด install จะพร้อม Download, Verify และติดตั้ง iOS 15 beta ได้ทันที
แต่เนื่องจากเป็นการเปลี่ยน version iOS ใหม่เอี่ยม ผมจึงไม่ต้องการติดตั้งแบบ update จาก iOS 14 ครับ แต่ต้องการล้างข้อมูลของ iOS 14 เดิมๆ ออกทั้งหมด และติดตั้ง iOS 15 beta แบบ clean ไปเลย
สิ่งที่ต้องทำคือ
1. Back up ข้อมูลทั้งหมดในเครื่อง SE ที่ version iOS 14.7 โดยผ่าน Finder
2. Restore เครื่อง SE ด้วย iOS 15 beta เพื่อ set as new iPhone
3. เรียกข้อมูล Backup ของเครื่องในข้อ 1 กลับมาในเครื่องที่อยู่ใน iOS ใหม่
เริ่มกันเลย
ทำขั้นตอนที่ 1 Backup ข้อมูลในเครื่องทั้งหมดก่อน
จากนั้นเข้า developer.apple.com เพื่อ download iOS 15 ของ SE มาเก็บไว้ใน Macbook
จะเห็นว่า surprise มาก ที่ SE รุ่น 1 และ 6s series ได้ไปต่อด้วย
แสดงขนาด file ที่ download ขนาด 6.01 GB
Sync ข้อมูลที่ต้องการ Back up เก็บไว้เสร็จแล้ว
หน้า Home ของเครื่อง SE ใน iOS 14.7 หลัง Back up เรียบร้อยแล้ว
ทำขั้นตอนที่ 2 โดยยังไม่ต้องถอดสาย Sync ออก
กดปุ่ม Option ที่แป้น Mac + click Restore ที่หน้า Finder ของ SE เพื่อเลือก ROM ที่ต้องการติดตั้ง
จากนั้นเข้าสู่ขบวนการ Extract,Prepare, Verify และ Restore iOS 15 beta
หน้าจอแสดง Extracting ROM ที่ download มา
Preparing
Restoring ที่หน้าจอ iPhone จะเริ่มการติดตั้ง
หน้าจอ Macbook ขึ้น pop up แจ้งว่า จะ set เป็นค่าโรงงานเลยนะ ให้รอซักพัก
ลองอ่านใกล้ๆ
ที่หน้าจอ SE ก็เริ่มเข้าการ Restore ขั้นสุดท้าย ลุ้นเหมือนกันว่าจะมี error อะไรขึ้นมามั๊ย?
ok SE reboot เรียบร้อย หน้าจอ Summary บน Mac จะหายไป เพื่อ reconnect กับ SE อีกครั้ง
ส่วนหน้าจอ SE เข้าหน้า ” สวัสดี ” ของ iOS ใหม่เรียบร้อย
ตอนนี้เราถอดสาย Sync ออกจาก Macbook ได้เลยครับ เพื่อ Set up iPhone
ขั้นตอนจะเหมือนตอนเรา Unbox วันที่ซื้อเครื่องที่ Shop ใหม่ๆ เลย
เลือกประเทศ
ผมเลือก Set up Manually เพื่อต้องการดูว่ามีอะไรใหม่บ้าง ใน iOS นี้
เลือก Wifi เพื่อ log in Apple ID account
ผมอยู่ชั้นบนซึ่งห่างจาก Router พอสมควร เลยเลือก 2.4 GHz ไว้เพื่อความปลอดภัยระหว่าง Set up ครับ
ใช้เวลารอพักนึง เพราะตอนนี้พวก Developer น่าจะใช้ server กันเยอะ
เข้าหน้า Consent form
เพราะเป็น SE เลยต้อง set Touch ID
ถ้าเป็น iPhone 12 series ก็จะเป็นให้ set Face ID แทน
set Touch ID step 1
set Touch ID step 2
เรียบร้อย
set Passcode
set Passcode complete
ตอนนี้เป็นขั้นตอนสำคัญในการเรียกข้อมูลเก่ากลับเข้ามาในเครื่องที่อยู่ใน iOS ใหม่
มีการเรียกกลับได้ 4 ทางเลือกจากบน ลง ล่าง
ส่วนทางเลือกที่ 5 (ล่างสุด) คือ การไม่เรียกข้อมูลเก่ากลับเลย (นอกจากสิ่งที่ผูกพันกับ iCloud account เช่น Contacts, Passwords etc.)
ถ้าเราเลือกข้อแรกสุด จะมาเข้าหน้านี้ครับ
เมื่อเราใส่ Apple ID และรหัส จะเข้าขั้นตอนการเรียกข้อมูลเก่าที่สำรองใน iCloud เข้าเครื่องทันที
และกรณีที่เลือกข้อ 2 Restore from Mac or PC ก็จะเข้าหน้านี้ครับ
แล้วทำตามขั้นตอนที่บอกไว้บนหน้าจอ
ในกรณีนี้ผมลองเลือกข้อล่างสุด คือ ไม่ให้ข้อมูลใดๆ กลับมาเลย เพราะต้องการสำรวจดู iOS 15 แบบไม่มีอะไรในเครื่องเลยครับ ให้เครื่องโล่ง เป็นเครื่องใหม่เอี่ยมไปเลย
เมื่อเลือก Don’t Transfer Apps & Data จะมาเข้าหน้า log in Apple ID ครับ
เข้า log in
Verify code
เข้า Consent form
จากนั้นรอ
หลังจาก Register Apple ID เรียบร้อยแล้ว
กดปุ่ม Home เพื่อเข้า Set up ขั้นสุดท้าย
Enable Location service
set Screen time
ยินยอมให้ส่ง Analytics มั๊ย?
App Analytics
เลือก Theme
เลือก Dark mode
กำหนดมุมมอง
Welcome!
แสดงหน้า Home iOS 15
หน้าที่ 2
ดู folder Utilities
แสดงหน้า Widgets ตอน set เป็นค่าเริ่มต้น
ลองเลื่อนหน้า Widgets ลงมาจนสุด
จากนั้นปัดกลับไปขวาสุด เจอหน้า App Library เหมือน iOS 14
แสดงการเปิดทุกหน้าแบบต่อเนื่อง
ลองดึง Control center ขึ้นมา เห็น menu ใหม่ ” Focus ”
เมื่อดึงขึ้นมาจนสุด
ok สำรวจคร่าวๆ แล้ว ตอนนี้จะเรียกข้อมูลทุกอย่างที่เคยมีในเครื่องตอนเป็น iOS 14.7 กลับเข้าเครื่องที่เป็น iOS 15 เครื่องโล่งๆ ครับ
เสียบสาย Sync เชื่อมต่อกับ Mac อีกครั้ง แล้วเรียก Finder จะขึ้นหน้าจอดังรูป
เลือก Restore from this backup จากชื่อเครื่องที่ผมสำรองข้อมูลไว้ครับ
ชื่อเครื่องคือ ColdbREW สำรองข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 03.26 วันนี้
กดเลือก
เข้าสู่ขบวนการเรียกข้อมูลที่สำรองไว้กลับ
มี pop up ที่ Macbook ให้ปิด Find My ก่อนเริ่ม Restore from backup
เข้าไปอ่านใกล้ๆ
ส่วนที่หน้าจอ iPhone จะขึ้นข้อความนี้
ถึงตอนนี้ให้เข้านอนไปก่อนได้เลยครับ เพราะใช้เวลานานมาก โดยเฉพาะเครื่องที่ลง Apps, เพลง, หนัง, รูปเยอะๆ (เครื่องผมลง app 226 ตัว และรูปเยอะมาก)
ok ตื่นมาตอนตี 5 ครึ่งครับ มาเจอหน้าจอนี้ การ Restore จาก backup สำเร็จด้วยดี
หลังจากนี้จะเข้าสู่การ Set up แบบ manual อีกครั้ง ใน set up ส่วนที่เรายังไม่ได้ทำในตอนแรกครับ
ที่ iPhone กด Continue ต่อได้เลย
เข้าหน้า Set up Apple Pay เลือก later เพราะยังใช้ไม่ได้ในไทย
เมื่อเข้าหน้า Home จะเห็น Apps และ Widgets ที่เคยใช้แบบตอนเป็น iOS 14 ยังว่างเปล่า เพราะอยู่ในขั้นตอนการติดตั้ง Apps และ Widgets คืนทุกตัวครับ
ตอนนี้คือ รออย่างเดียว
ไปล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำ แล้วออกไปตักบาตรก่อนได้
เห็นมีผู้ใช้เจอปัญหา Battery Health เปลี่ยนแปลงหลัง up iOS ผมนึกขึ้นได้เลยลองเข้าไปสำรวจที่ Settings –> Battery ครับ
จะเห็นกราฟ Battery Level ถูก reset ใหม่ ไม่มีประวัติการใช้ก่อนหน้าเวลา ตี 3 ซึ่งเป็นเวลาที่ up iOS 15 เสร็จเลย
เห็นเพียงช่วงที่ Sync ข้อมูลซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เครื่องถูก charge batt จาก Macbook เท่านั้น
พบว่า Battery Health ยังเท่าเดิมที่ก่อน up iOS 15 ครับ คือ เครื่องผมเดิมอยู่ที่ 99% (SE เครื่องนี้ซื้อวันที่ 1 มิ.ย. 2563 อายุ 1 ปีพอดีครับ ผมใช้เป็นเครื่องหลักมาตลอด)
ตอนนี้เวลาบ่าย 1 กับ 41 นาที ผมทดสอบเครื่องมาเกือบครึ่งวันแล้วครับ (เจอ bugs 1 จุดแล้ว)
รูปแสดงหน้าตา SE iOS 15 beta ที่ Restore จาก backup iOS 14.7
(การ Restore ของ iOS โหดมาก คือ หน้าตาและการเรียงของ icon นอกจากจะเหมือนเดิมทุกอย่าง ใน app ที่ใช้ password เช่น Mobile Banking, app 7-11 etc. ไม่ต้อง log in ใหม่เลย ทุกอย่างจะมาทั้งหมด)
แต่โดยรวม Apps หลักๆ ยังใช้งานได้ปกติ ขอทดสอบต่ออีก 2 วันครับ แล้วจะมาเขียนใน Part II ว่า การใช้งานโดยรวมของเครื่องเป็นยังไงบ้างนะครับ
ขอจบ พรีวิว iOS 15 beta Part I ไว้เพียงเท่านี้
Ref: