เรียกขวัญและศรัทธาเพื่อเป็นกำลังใจให้อาจารย์ Pedodontist ด้วย review หนังสือ การจัดการนิสัยดูดนิ้วสำหรับทันตแพทย์

12662023_933484826706230_477045349914257822_n

จากข่าวที่รบกวนจิตใจอยู่ในขณะนี้ ทำให้ผมนึกถึงหนังสือ Pedo เล่มนึงซึ่งหวานและอบอุ่นมาก เขียนโดยท่านอาจารย์ที่ผมคาดว่า น่าจะเป็นหมอที่อ่อนโยนและใจดีที่สุดท่านหนึ่ง หลังจากที่ทำความรู้จักท่านผ่านทางตัวหนังสือ

หนังสือเล่มนี้คล้ายๆ หนังสือทันตแพทย์หลายๆ เล่ม คือ พิมพ์ออกมาน้อย (ประมาณ 1000 เล่ม) และไม่ค่อยตีพิมพ์ซ้ำ เล่มที่ผมมีอยู่เป็นเล่มที่พิมพ์ครั้งที่ 1 ปลายปี พ.ศ.2552

ท่านอาจารย์ผู้เขียน รศ.ทพญ.ประภาศรี ริรัตนพงษ์ ภาควิชาทันตกรรมสำหรับเด็ก มหิดล

12715467_933487006706012_5306588127740445303_n

หนังสือสีหวาน ขนาด 80 หน้า แบ่งเนื้อหาตามลำดับของการทำความรู้จัก, การจัดการต่อสิ่งที่พบ, การทำความเข้าใจต่อพฤติกรรมและการให้การรักษาที่เหมาะสม (หรือพูดอีกด้านคือ การไม่ให้การรักษาที่เหมาะสม) ท่านอาจารย์ประภาศรีเขียนเนื้อหาทั้ง 6 บท มีเพียงบทสุดท้าย เขียนโดย กุมารแพทย์ คณะแพทย์ จุฬา คือ ผศ.นพ.ณัทธร พิทยรัตน์เสถียร

12670273_933492346705478_5440926612459757716_n

บทที่เกี่ยวกับทันตแพทย์โดยตรง คือ บทที่ 5 ผลของ finger sucking และ บทที่ 6 การจัดการ finger sucking

เริ่มที่ Intro การ finger sucking เป็นพฤติกรรมปกติและถือเป็น learning จนหลัง 1 ขวบ จะค่อยๆ ลดลงไปเองเรื่อยๆ จน 2-4 ขวบ เด็กจะหายจากพฤติกรรมนี้ไปได้เอง

12661766_933496190038427_1656876908399143531_n

ในบทที่ 2 จะลงรายละเอียดถึงลักษณะการดูดเทียบการดูดจากนมแม่ จากที่อ่าน เด็กดูดหัวนมโคตรแน่นมาก (ผมว่าแม่น่าจะเจ็บเลยนะ) แล้วใช้ลิ้นรีดน้ำนมออกมาโดยลิ้นมีการเคลื่อนตัวเป็นคลื่น Peristaltic motion)

12717447_933498293371550_7862946136584370926_n

เทียบกับการดูดจากนมขวด จะเห็นตำแหน่งของเพดานกับลิ้น คนละเรื่องกับการดูดนมแม่เลย

12728937_933498770038169_7869626549684325936_n

รูปแสดงลักษณะหัวนมปลอมแบบทั่วไปกับแบบ Orthodontic ซึ่งจะแบนกว่า โค้งกว่า เพื่อให้รับกับ palate

12715332_933499703371409_1999616977373765706_n

บทที่ 3 พูดถึง factors ที่มีผลให้เกิดซึ่งเยอะมาก ประมาณ 12 ข้อ ยกตัวอย่างเช่น ระยะเวลาตอนเด็กเข้านอน หรือ จำนวน-ลำดับของพี่น้องในครอบครัว ก็มีผลนะ ตอนท้ายบท ท่านอาจารย์ยก Theory ทาง Psycho มา 3 ทฤษฎีหลัก ที่ใช้อธิบายสาเหตุ

12687819_933501110037935_8312179066453162429_n

บทที่ 4 เป็น Prevalence แสดงตารางตัวเลขการศึกษาในประเทศและภูมิภาคต่างๆ (ส่วนใหญ่เป็นยุโรป) ที่น่าสนใจคือ พบเด็กเอสกิโม กับ เด็กอินเดียแดงพื้นเมืองใน US ที่ไม่พบพถติกรรมการดูดนิ้วเลย

12670573_933502080037838_6102375431073071296_n

บทที่ 5 จะเริ่ม link กับ Ortho ละ ทั้งอธิบายการเกิด malocclusion ทั้ง Ant open bite, Cross bite ไปจนถึง Skeletal deformity เกิด Angle Cl II (finger sucking ไม่ใช่สาเหตุโดยตรง แต่ถ้า skeleton หรือ occlusion มีแนวโน้มอยู่แล้ว จะยิ่งเร่งให้เกิดแรงขึ้น)

12662467_933503576704355_1849518860999624624_n

ท่าทางในการดูดนิ้วก็มีผลไม่เหมือนกัน การหงายนิ้วดูดดังรูปจะเกิดแรงแบบคานระบบที่ 1 ดันฟันบนให้ procline และดันฟันหน้าล่างให้ retrude

12733386_933505300037516_3660770284180363220_n

บทที่ 6 ที่ท่านอาจารย์ ประภาศรีเขียนเป็นบทสุดท้าย เรื่อง การจัดการ (การรักษาพฤติกรรมนี้) ตั้งแต่ การไม่ต้องทำอะไรเลยในเด็กต่ำกว่า 4 ขวบ และเริ่ม counsellling เด็กและพ่อแม่ใน 4-6 ขวบ และถ้าหลังจากช่วงนี้ (คือใกล้ 10 ขวบ) ต้องใช้วิธีอื่นในการปรับเพิ่ม ทั้งวิธีทางจิตวิทยา และการใส่ Appliance

12662720_933507160037330_7511047055829683630_n

บทสุดท้ายของหนังสือ เขียนโดยท่านอาจารย์กุมารแพทย์ อธิบายมุมมองด้วยทฤษฎีจิตวิทยาต่างๆ ทั้ง Sigmund Freud และท่านอื่นๆ สรุปคือ ทางแพทย์มองว่า เป็นนิสัยที่ปกติ ยอมรับได้ แต่จะเริ่มเข้าไปจัดการเมื่อ เด็กอายุ 5 ขวบ (เท่าๆ กับของทันตแพทย์ที่ 4-6 ขวบ) และใช้เทคนิกการรักษาโดยการปรับพฤติกรรม ก็เอาอยู่แล้ว

12654396_933510503370329_2987607657182893604_n

โดยสรุป (ความเห็นส่วนตัวของผม) ทางกุมารแพทย์จะ chill มาก มองว่า เป็นเพียงนิสัยที่ทำซ้ำๆ เพื่อชดเชยความมั่นคงทางอารมณ์ของเด็ก แต่สำหรับทันตแพทย์ค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่ (ยิ่งถ้ายังทำหลัง 4 ขวบ จะเรื่องใหญ่มาก) เพราะมันมีผลต่อฟันและ Skeletal อาจทั้งโดยตรงและโดยอ้อม

 

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s